
Amazon ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เตรียมปลดพนักงานสายองค์กรกว่า 30,000 ตำแหน่ง หันมาใช้ AI แทนคน
- SkillUP Asia
- 28 ต.ค.
- ยาว 1 นาที
Amazon ปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ เตรียมปลดพนักงานสายองค์กรกว่า 30,000 ตำแหน่ง หันมาใช้ AI แทนคน
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ว่า Amazon กำลังเตรียมแผนปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ที่สุดในรอบสามปี โดยมีเป้าหมายลดจำนวนพนักงานสายองค์กร (Corporate) ลงมากถึง 30,000 ตำแหน่งทั่วโลก หรือคิดเป็นประมาณ 9–10% ของพนักงานสายสำนักงานทั้งหมด เพื่อปรับทิศทางองค์กรให้เข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน
ตามรายงานของ Reuters และ The Verge ระบุว่า การปลดพนักงานครั้งนี้ยังไม่ใช่ประกาศอย่างเป็นทางการจาก Amazon แต่ข้อมูลมาจากแหล่งข่าวภายในที่ใกล้ชิดกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุว่า บริษัทเริ่มดำเนินการปรับลดทีมงานบางส่วนตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
สาเหตุหลักของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มาจากการปรับโครงสร้างภายในเพื่อให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลและการเติบโตของเทคโนโลยี AI ซึ่ง Amazon ลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทั้งในด้านระบบ AI สำหรับการบริหารงาน การจัดการข้อมูลลูกค้า และการใช้ระบบอัตโนมัติในงานหลังบ้าน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงานระยะยาว
Andy Jassy ซีอีโอของ Amazon กล่าวในจดหมายภายในถึงพนักงานว่า “เรากำลังสร้างองค์กรที่ทำงานได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่ากว่าเดิม” พร้อมระบุว่า เทคโนโลยีใหม่อย่างปัญญาประดิษฐ์จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินงานได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะในส่วนของการวิเคราะห์ข้อมูลและงานเอกสารที่เคยต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก
ที่ผ่านมา Amazon พัฒนาเทคโนโลยี AI ของตนเองอย่างต่อเนื่อง เช่น ระบบ “Amazon Q” ผู้ช่วย AI สำหรับพนักงานองค์กร และระบบ “Bedrock AI” ที่ใช้ประมวลผลข้อมูลเชิงลึกภายในบริษัท รวมถึงการนำ Machine Learning มาใช้ในการคาดการณ์ยอดขาย การบริหารสต็อกสินค้า และการสร้างข้อความทางการตลาดอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ช่วยลดขั้นตอนและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงานได้อย่างมาก
อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพนักงานในสาย Corporate ที่ต้องเผชิญการปรับโครงสร้างอย่างกะทันหัน หลายฝ่ายคาดว่า ตำแหน่งที่ได้รับผลกระทบจะอยู่ในกลุ่มฝ่ายบุคคล การตลาด และฝ่ายบริหารโครงการ ซึ่งเป็นสายงานที่ AI สามารถเข้ามาทำงานแทนได้บางส่วน
นักวิเคราะห์จาก Bloomberg มองว่าการตัดสินใจของ Amazon เป็นสัญญาณสำคัญที่สะท้อนการเปลี่ยนผ่านของตลาดแรงงานระดับโลก จาก “แรงงานมนุษย์” ไปสู่ “แรงงานดิจิทัล” ที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยเฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตในระยะยาว การใช้ AI ไม่ได้เพียงลดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันในยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนเร็วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในมุมมองเศรษฐกิจระยะสั้น ข่าวการปลดพนักงานจำนวนมากอาจสร้างความกังวลให้พนักงานและนักลงทุน แต่ในระยะยาว ตลาดกลับตอบรับเชิงบวก โดยหุ้นของ Amazon มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นหลังข่าวเผยแพร่ เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าการปรับโครงสร้างนี้จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรของบริษัทในอนาคต
ในขณะเดียวกัน Andy Jassy ยังย้ำว่าบริษัทจะไม่หยุดลงทุนในบุคลากร แต่จะโฟกัสไปที่การพัฒนา “ทักษะใหม่” ให้กับพนักงานที่ยังอยู่ เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกับเทคโนโลยี AI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ “AI จะไม่แทนที่ทุกคน แต่จะเปลี่ยนบทบาทของเราทั้งหมดให้ทำงานที่สร้างคุณค่ามากขึ้น” เขากล่าว
เหตุการณ์ครั้งนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงข่าวขององค์กรเทคโนโลยีรายใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในโลกแรงงาน เมื่อปัญญาประดิษฐ์เริ่มเข้ามามีอิทธิพลในทุกมิติของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นงานบริการลูกค้า การตลาด หรือการบริหารทรัพยากรบุคคล
สำหรับผู้ประกอบการและแรงงานในประเทศไทย ข่าวนี้ถือเป็น “สัญญาณเตือนล่วงหน้า” ที่ชัดเจนว่า การเรียนรู้และเข้าใจการใช้ AI จะกลายเป็นทักษะจำเป็นในอนาคตอันใกล้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของธุรกิจ SME หรือพนักงานทั่วไป การปรับตัวตั้งแต่ตอนนี้คือสิ่งที่จะทำให้สามารถแข่งขันได้ในยุคที่เทคโนโลยีขับเคลื่อนทุกอย่าง
สิ่งที่ Amazon กำลังทำในวันนี้ อาจกลายเป็นโมเดลที่องค์กรอื่นทั่วโลกนำไปใช้ต่อ เช่น การใช้ระบบอัตโนมัติแทนขั้นตอนเอกสาร การนำ Chatbot มาให้บริการลูกค้าแทนคอลเซ็นเตอร์ หรือการให้ AI เขียนและวิเคราะห์รายงานทางธุรกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนแนวโน้มการทำงานรูปแบบใหม่ที่ AI ไม่ได้เป็นเพียงผู้ช่วย แต่เป็น “ทีมงานดิจิทัล” ที่ทำงานเคียงข้างมนุษย์ในแทบทุกกระบวนการ
ในอีกด้านหนึ่ง การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ยังเปิดโอกาสให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ มากมาย เช่น ผู้จัดการระบบ AI (AI Operations Manager), วิศวกรคำสั่ง (Prompt Engineer), และนักออกแบบระบบอัตโนมัติ (Automation Flow Designer) ซึ่งกำลังกลายเป็นอาชีพมาแรงทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยที่เริ่มมีหลักสูตรและสถาบันด้าน AI เปิดสอนมากขึ้น
การปรับลดพนักงานกว่า 30,000 คนของ Amazon จึงไม่ใช่เพียงมาตรการลดต้นทุน แต่คือการส่งสัญญาณถึง “ยุคการทำงานรูปแบบใหม่” ที่เทคโนโลยีและมนุษย์ต้องเดินไปด้วยกัน ผู้ที่ปรับตัวได้ก่อนจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในโลกเศรษฐกิจยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และข้อมูล
ในอนาคตอันใกล้ เราอาจได้เห็นบริษัทอื่น ๆ เดินตามแนวทางเดียวกับ Amazon ทั้งในด้านการใช้ระบบอัตโนมัติ การบริหารองค์กรด้วยข้อมูล และการสร้างระบบการทำงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การเปลี่ยนผ่านสู่โลกที่ AI มีบทบาทสำคัญจึงไม่ใช่สิ่งที่ควรกลัว แต่คือโอกาสใหม่สำหรับทุกคนที่จะเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี หากเรียนรู้และเริ่มต้นใช้มันอย่างมีเป้าหมาย
---
อ้างอิง:
Reuters, The Verge, AP News, Bloomberg (ตุลาคม 2025)
-







ความคิดเห็น